ความหมายของ SMEs
SMEs นั้นย่อมาจาก Small and Medium Enterprises คือ
ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่เกิดจากการผลิตสินค้าและบริการที่มาจากทักษะหลากหลาย
โดยมีกระบวนการผลิตที่ยืดหยุ่น สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน
รวมถึงความต้องการของตลาดโลกด้วย ทั้งนี้ได้ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นส่วนใหญ่
ไม่พึ่งพาโรงงานหรือธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งผลผลิตสินค้าและบริการ ได้รับมาตรฐานสากล
ทั้งสร้างรายได้และเป็นเงินตราต่างประเทศได้
เครดิต อาหารเสริม สองสาม
ลักษณะที่ดีของ
SMEs
1.สามารถทำรายได้จากดอลลาร์โซนได้ คือ
ธุรกิจสามารถทำรายได้จากการขายส่งไปต่างประเทศโดยตรง
2.เป็นธุรกิจ SMEs ที่พึ่งตนเองได้
คือเป็นธุรกิจที่มีตลาดสินค้าขายเป็นของตนเอง
มีความหลากหลายไม่ต้องพึ่งพาสั่งซื้อจากโรงงานใหญ่
3.มีความว่องไวในการปรับตัว คือ
สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้
4.ใช้เงินทุนในการประกอบการไม่สูง คือ
เป็นธุรกิจใช้เงินทุนน้อยในช่วงเริ่มต้น ทำให้ไม่มีภาระหนี้สินมาก | อาหารเสริม ยี้ห้อไหนดี
5.เป็นธุรกิจที่ใช้ทักษะในการผลิต คือ สินค้าส่วนใหญ่ ทำด้วยมือ
จะต้องมีทักษะชำนาญและภูมิปัญญา ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีในระดับหนึ่งที่เหมาะสม
ทั้งเรื่องในการออกแบบ การผลิต
6.ใช้วัตถุดิบในการผลิตภายในประเทศ คือ
ผลิตสินค้าด้วยวัตถุดิบภายในประเทศอาจไม่ได้ใช้ทั้งหมด
แต่ให้ใช้เป็นส่วนใหญ่หรือถ้าต้องการมีนำเข้า
ต้องให้กระบวนการผลิตสามารถเพิ่มมูลค่ามากขึ้น จนมีกำไรสูง
7.สินค้ามีคุณภาพ คือ ผลิตสินค้าต้องเน้นคุณภาพ
และคุณภาพที่ผลิตได้ต้องเน้นที่มาตรฐานสากลระดับโลก
ผ่านเกณฑ์และมาตรฐานด้านสุขอนามัย
8.เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน คือ ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในชุมชน ทั้งชนบท
ในเมืองมีการบริหารจัดการภายในครอบครัว และเข็มงวดกับกระบวนการควบคุม
เครดิต อาหารเสริม สองสามสี่
อุปสรรคของ SMEs
1.ขาดแหล่งเงิน เนื่องจากเป็นธุรกิจขนาดเล็กและทำด้วยมือ ไม่มีสินทรัพย์ถาวรมากจึงไม่ได้รับความสนใจกับสถาบันการเงินและเข้าไม่ถึงตลาดทุนเพราะระบบบัญชีไม่ได้มาตรฐาน
2.ขาดความรู้ SMEs ไทยส่วนใหญ่ขาดความรู้ทางศิลปะสากล
ต้องพึ่งพาดีจากต่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ประกอบการ SMEs ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ทางด้านการจัดการ
ที่รวมถึงการเงิน บัญชี และการตลาดระหว่างประเทศ
การดำเนินธุรกิจขนาดย่อม
การดำเนินธุรกิจของขนาดใดๆนั้นย่อมมีกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น กิจกรรมการผลิต
การตลาด การบริหารบุคล และการเงิน
ผู้ประกอบการสามารถดูแลและดำเนินตลอดจนบริหารธุรกิจของตนเองได้
ต่อมาเมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จย่อมมีธุรกิจขยายขึ้นตามลำดับ
ซึ่งต้องมีวิธีการดำเนินธุรกิจแบบมีแผนงานและมีระบบ
ทั้งนี้ควรวัดขนาดของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถวัดได้จาก ขนาดของสินทรัพย์
หรือยอดขาย
เมื่อธุรกิจขยายตัวมากขึ้น
ผู้ประกอบการจะต้องใช้ทักษะด้านการบริหารมากขึ้นหลายครั้งอาจประสบปัญหา
เช่นเวลาทำงานมากเกินไป ไม่มีเวลาคิดทิศทางของธุรกิจ
ดังนั้นผุ้ประกอบการจึงควรมีหลักการจัดการดังนี้
1.มีการวางแผน
2.ใช้การติดต่อสื่อสารแบบ2ทาง
3.จัดองค์กร
4.จัดการบริหารให้เกิดประสิทธิภาพคุ้มค่าที่สุด
5.ผู้ประกอบการต้องมีวินัยตนเอง
6.มีการควบคุม